4 องค์กรรัฐและเอกชน ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ร่วมพลิกฟื้นสวนส้มร้างทุ่งรังสิตกว่า 1.5 แสนไร่มาเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งในด้านอาหารและพลังงาน
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะให้การสนับสนุนโดยให้ BCP เช่าที่ดิน 1,200 ไร่ เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมัน โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของเกษตรกรที่เคยเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ที่ขอสินเชื่อไปปลูกส้ม แต่เนื่องจากเกิดปัญหาดินเปรี้ยวทำให้เพาะปลูกไมได้ ส่งผลให้กลายเป็นหนี้เสีย จึงนำมาให้บางจากฯ เช่าเป็นศูนย์ศึกษาและพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
ปัจจุบัน พื้นที่ปลูกปาล์มส่วนใหญ่จำกัดอยู่เฉพาะภาคใต้ เวลาเกิดภัยธรรมชาติในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ผลผลิตปาล์มเกิดปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก นอกจากนี้ ปาล์มน้ำมันเป็นพืชชนิดเดียวที่มีศักยภาพปลูกในดินเปรี้ยวได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยดูดซับป้องกันน้ำท่วมได้ในช่วงฤดูน้ำหลากได้อีกด้วย
ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า หากผลผลิตปาล์มน้ำมันออกมาตามเป้าหมายก็จะมีการพิจารณาสร้างโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันขนาดมาตรฐาน มูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อต่อยอดทำให้อนาคต BCP สามารถเพิ่มกำลังผลิตไบโอดีเซลเป็น 4 แสนลิตรต่อวัน จากปัจจุบันที่มีการผลิตอยู่ที่ 3 แสนลิตรต่อวัน