หยู เจิ้นเหวิน นักวิชาการจากวิทยาลัยวิศวกรรมของจีน กล่าวว่า ภาวะแห้งแล้งยาวนานในเขตภาคเหนือของจีนยังไม่สร้างความเสียหายรุนแรงต่อข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวของจีน แต่ถึงกระนั้นก็ควรมีการเพิ่มความพยายามในการบรรเทาภัยแล้ง
โดยนายหยูกล่าวในที่ประชุมซึ่งจัดโดยกระทรวงเกษตรของจีนว่า ปริมาณน้ำฝนในเขตภาคเหนือของจีน ซึ่งได้แก่มณฑลชานซี เหอเป่ย และ ชานตง ลดลง 20-90% จากปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายต่อการเพาะปลูกข้าวสาลีช่วงฤดูหนาว
"หากภัยแล้งยังคงลุกลามในภาคเหนือของจีน จะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลผลิตข้าวสาลีในฤดูหนาว" นายยูกล่าว
นายหยูยังเรียกร้องให้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการนาข้าว กำจัดแมลงศัตรูพืช และโรคพืช พร้อมทั้งเพิ่มความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีในการต่อสู้กับภัยแล้งให้กับเกษตรกรที่ปลูกข้าวสาลี
นอกจากนี้ รัฐบาลทุกระดับควรมีความใส่ใจต่อภัยแล้งและดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวสาลีลง
สำนักงานควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งแห่งรัฐของจีน เปิดเผยว่า ภาวะแห้งแล้งได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 4 ล้านเฮคตาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน