นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT)กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ อนุมัติให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม(CAT)ดำเนินโครงการเคเบิลใต้น้ำใยแก้วอ่าวไทย วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นการว่าจ้างบริษัท เชฟรอน
โครงการดังกล่าวจะช่วยในการลดความเสี่ยงของการส่งผ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วสร็จภายใน 2 ปี และพร้อมให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3/55 ตามนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ
ทั้งนี้ โครงการเคเบิลใต้น้ำใยแก้วอ่าวไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสร้างโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำใยแก้วที่เป็นเส้นทางหลัก เพื่อขยายระบบสื่อสารในประเทศและเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยเชื่อมโยงสถานีเคเบิลใต้น้ำใยแก้ว 2 สถานี ระหว่าง ชลี 2 จังหวัดสงขลา และ ชลี 3 จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานีจุดขึ้นบก(Landing Point) ของโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำใยแก้วระหว่างประเทศและจุดเชื่อมโยงการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างภูมิภาคที่สำคัญเข้าสู่ประเทศไทย
โครงการดังกล่าวเป็นการขยายโครงข่ายสื่อสารภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี Dense Wavelength Division Multiplex (DWDM) ที่ทันสมัย และติดตั้งอุปกรณ์ทวนสัญญาณใต้น้ำ Repeater ที่ทำหน้าที่ขยายความเข้มของแสงให้สามารถส่งสัญญาณไปได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้น สามารถให้บริการสื่อสารรองรับความจุไม่น้อยกว่า 160 Gbps สามารถรองรับการให้บริการโทรคมนาคมทุกรูปแบบ เพิ่มความมั่นคงและหลากหลายในการใช้โครงข่าย
นอกจากนั้น ยังเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างเคเบิลใต้น้ำใยแก้วเส้นทางหลักกับแท่นสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของผู้ใช้บริการในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานในอ่าวไทย และสามารถรองรับบริการวงจรเช่าส่วนบุคคลความเร็วสูงสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานในอ่าวไทยที่ต้องการการรักษาความปลอดภัยสูง ซึ่งพลังงานจากฐานการผลิตเหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงหลักของโรงไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน เช่น บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง (RATCH ),บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO ) ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ