สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำดิ่งลงอย่างหนักเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.26% แตะที่ 1,344.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1344.3 - 1342.9 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10.6 เซนต์ ปิดที่ 27.321 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.95 เซนต์ ปิดที่ 4.3485 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมอ่อนตัวลง 20 เซนต์ ปิดที่ 816.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาทองคำ COMEX ดิ่งลงไปปิดที่ระดับ 1,341 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ปี 2553
ตลาดทองคำได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาพลังงานและอาหารที่ทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดทองคำนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทสหรัฐ รวมถึงบริษัทเจนเนอรัล อิเล็กทริก
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปยังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วย โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี อันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต