ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัทอินเทล คอร์ป ประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลและเพิ่มการซื้อคืนหุ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ จะอนุมัติโครงการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ในการกล่าวแถลงการณ์ประจำปี (State of the Union) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 108.68 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 11,980.52 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.49 จุด หรือ 0.58% ปิดที่ 1,290.84 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 28.01 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 2,717.55 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียออกมาส่งสัญญาณว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก อาจจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะพุ่งขึ้นอีก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 87.87 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 87.65 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำดิ่งลงอย่างหนักเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.26% แตะที่ 1,344.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1344.3 - 1342.9 ดอลลาร์
-- ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.20% แตะที่ 1.3642 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3615 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.04% แตะที่ 1.5995 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6001 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ของสหรัฐจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่า คณะกรรมาธิการอิสระด้านการธนาคารของอังกฤษกำลังพิจารณาเรื่องการแยกธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ออกจากธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและวาณิชธนกิจ
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 47.60 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 5,943.85 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,887.60-5,960.55 จุด