ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีปัญหาด้านการเมืองและอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่มีผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้
ดังนั้น ธปท.และคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ควรจะต้องหาจุดสมดุลย์ระหว่างอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และระดับทุนสำรองระหว่างประเทศ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
“อยากให้อัตราแลกเปลี่ยนมันอ่อน ตอนนี้มันก็อ่อนแล้ว เสร็จแล้วมันก็มีผลต่อเงินเฟ้อ ที่คือปัญหางูกินหาง ที่เวียดนามไปไม่รอดก็คงเพราะเหตุนี้ ในหลักการถ้ามี กนง. ที่ดีเขาก็ต้องพยายามทำให้มันเกิดความสมดุลย์กัน"ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
แต่ในอีกด้านหนึ่งเงินบาทอ่อนค่าส่งผลดีต่อภาคการส่งออกที่เป็นรายได้หลักของประเทศ และการที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวก็น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยด้วย ดังนั้น การดูแลค่าเงินบาทของ ธปท. จึงค่อนข้างผ่อนคลายมากขึ้นในกรณีที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อด้วย
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า หากต้องการให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องก็ต้องพยายามไม่ให้เงินเฟ้ออยู่ระดับสูง เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้ เห็นได้จากประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมักไม่ดีนัก เพราะคนไม่กล้าลงทุน แตกต่างจากประเทศที่มีเงินเฟ้อต่ำเศรษฐกิจจะเติบโตได้ดีกว่า