นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ(กบส.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.), กรมศุลกากร, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ไปศึกษาเตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงฝั่งตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยโครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการพัฒนาท่าเรือนน้ำลึกทวาย ในสหภาพพม่า และนิคมอุตสาหกรรมในรูปแบบพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งใหม่ของภูมิภาค โดยมีพื้นที่มากถึง 250 ตารางกิโลเมตร
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบการเตรียมความพร้อมการเปิดด่านศุลกากร และการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราวที่บ้านน้ำพุร้อน จ.กาญจนบุรี ซึ่ง สมช.และกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนของไทยสามารถเคลื่อนย้ายแรงงาน นำเครื่องจักร อุปกรณ์ในการก่อสร้างเข้าไปดำเนินการก่อสร้างโครงการที่บริษัทเอกชนของไทยได้รับสัมปทาน คาดว่าจะสามารถประกาศเป็นจุดผ่านแดนได้ภายใน 4-5 เดือน
นอกจากนี้ ยังให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ เป็นถนนเชื่อมโยงบางใหญ่ -นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 97 กม. สร้างเป็นมอเตอร์เวย์ 4-6 ช่องทางเดินรถ ปัจจุบันได้ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมและได้สำรวจออกแบบรายละเอียดก่อสร้างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินการก่อสร้าง
นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างเส้นทางจากกาญจนบุรีถึงชายแดนไทย-พม่า อีก 70 กม. รวม 2 โครงการระยะทาง 167 กม. อยู่ระหว่างเสนอของบประมาณปี 55 เพื่อจ้างศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยถนนเส้นนี้จะช่วยให้เชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวายได้
สำหรับกลไกในการบริหารจัดการ ที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้คณะกรรมการ กบส.เพื่อกำหนดกรอบทิศทาง ยุทธศาสตร์ และแผนการพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ สิ่งอำนวยความสะดวก และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือทวายกับพื้นที่อุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย