ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานด้านสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมของเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
โดยรายงานของยูโรสแตทระบุว่า ยอดคำสั่งซื้อของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนดังกล่าว
หากเปรียบเทียบเป็นรายอุตสาหกรรมพบว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 1.8% ในเขตยูโรโซนและเพิ่มขึ้น 2.8% ในกลุ่มประเทศอียู ในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่มีอายุการใช้งานในระดับปานกลางเพิ่มขึ้น 1.3% ในทั้ง 2 เขต
ทั้งนี้ สินค้าเพื่อผู้บริโภคที่มีอายุการใช้งานคงทนมียอดคำสั่งซื้อลดลง 0.9% ในเขตยูโรโซน และลดลง 0.1% ในกลุ่มประเทศอียู ส่วนสินค้าผู้บริโภคที่ไม่คงทนลดลง 1.6% และ 0.6% ตามลำดับ
ในกลุ่มประเทศสมาชิกอียูที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ ยอดคำสั่งซื้อในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นใน 17 ประเทศและลดลงใน 4 ประเทศ ในขณะที่เดนมาร์กไม่เปลี่ยนแปลง โดยฮังการีมียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 17.1% และลัตเวียมียอดคำสั่งซื้อลดลงสูงสุดที่ 2.6%
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2552 คำสั่งซื้อใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 19.9% ในเขตยูโรโซน และเพิ่มขึ้น 18.9% ในกลุ่มประเทศอียู สำนักข่าวซินหัวรายงาน