ผู้บริหารธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เผยแนวทางการดำเนินงานในปี 54 จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มรากหญ้ามากขึ้นเพื่อสนองนโยบายประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล โดยเตรียมสินเชื่อ 5 พันล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 1 หมื่นบาท/เดือน ซึ่งเป็นครัวเรือนที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยมากถึง 54.32%
โดยเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของ ธอส.ในปีนี้ แบ่งเป็น กลุ่มรากหญ้า 5% ส่วนใหญ่อีก 95% เป็นลูกค้าสวัสดิการ กับลูกค้ารายย่อย
"โจทย์ที่เราได้รับมาคือการสนับสนุนให้รายย่อยมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของตัวเอง" นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าว
ทั้งนี้ ธอส.จะจัดทำโครงการ"บ้าน ธอส.เพื่อสานฝัน" เพื่อปล่อยสินเชื่อบ้านให้กับลูกค้าที่ประกอบอาชีพอิสระ รายได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร และซื้อทรัพย์ NPA ของ ธอส. โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี 2.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR -1.00% ต่อปี วงเงินให้กู้ 85% ของราคาบ้าน หรือ 80% ของราคาห้องชุดหรืออาคารพาณิชย์ ให้กู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของ ธอส. และตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง
"ไม่กังวลเรื่องปัญหา NPL เพราะผลวิจัยยืนยันว่าคนที่มีบ้านหลังแรกไม่ยอมปล่อยทิ้ง แนวโน้มเป็น NPL จึงมีน้อย...ความจริงเงินที่จะผ่อนค่าบ้านจะตกราวๆ เดือนละ 2-3 พันบาทก็พอๆ กับค่าเช่าบ้าน" นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้แม้ดอกเบี้ยจะอยู่ในภาวะขาขึ้นแต่เชื่อว่าจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่มากนัก เพราะความต้องการยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน ดังนั้นเชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร
"ปีนี้คาดว่า กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกราว 1%ต่อปี หรือเฉลี่ยไตรมาสละ 0.25%ต่อปี ซึ่งถือว่าไม่มาก และธนาคารฯ ยังจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อไป อย่างน้อยถึงการประชุม กนง.รอบหน้า แม้ธนาคารฯจะไม่ได้ปรับขึ้นมานานถึง 6 เดือนแล้ว แถมยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีกด้วย
นายวรวิทน์ คาดว่า ในปีนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่น่าจะปรับขึ้นเกิน 0.50%ต่อปี หาก กนง.มีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(อาร์/พี) มาอยู่ที่ระดับไม่เกิน 3%ต่อปี
นายวรวิทย์ กล่าวว่า เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ที่ประเมินไว้ตั้งแต่ ต.ค.53 ซึ่งอยู่ที่ 9.46 หมื่นล้านบาทนั้นอาจจะมีการทบทวนใหม่ ซึ่งอาจจะตั้งเป้าหมายไว้เท่ากับปี 53 หรือมากกว่า และมีความเป็นไปได้ที่จะปรับเป้าสินเชื่อเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท
"คงต้องทบทวนใหม่ เพราะการปล่อยสินเชื่อปีก่อนก็สูงกว่าเป้าปีนี้ไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยลบเรื่องต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น" นายวรวิทย์ กล่าว
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาออกมาค่อนข้างดี ทั้งๆ ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ธอส.ก็ยังคงรักษาแชมป์การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไว้ได้
"ธนาคารฯ มีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้าง 34.42% สูงกว่าอันดับสอง ธนาคารไทยพาณิชย์ที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 14.97%" นายวรวิทย์ กล่าว