นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวในงานสัมมนา "พยากรณ์เศรษฐกิจและแนวโน้มการลงทุน ปีกระต่าย"ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 54 ภาพรวมคงเติบโตอยู่ โดยคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) โต 4-5%
ปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อน คือ การส่งออกที่หันมาเน้นตลาดเอเชียมากขึ้นหลังประเทศกล่มอุตสาหกรรมมีอัตราเติบโตลดลง, การใช้จ่ายในประเทศ ที่มาจากรายได้ของประชาชนสูงขึ้น โดยเฉพาะต่างจังหวัด อันเนื่องมาจากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ส่วนรายได้ในภาคแรงงานก็ดีขึ้นหลังมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือน ทำให้กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ รวมทั้ง การลงทุนในประเทศ ที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มลงทุนเพิ่มขึ้น
ส่วนในด้านปัจจัยเสี่ยง มาจากราคาสินค้าสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่มีโอกาสพุ่งไปถึง 100 ดอลลาร์/บาร์เรล, อัตราเงินเฟ้อ มีโอกาสเพิ่มขึ้นเกินระดับ 3.3% แต่มองว่าเป็นการพุ่งขึ้นในระดับดังกล่าวในระยะสั้นและอาจปรับตัวลงมา, อัตราดอกเบี้ย มองว่ายังเป็นช่วงขาขึ้น โดยส่วนตัวมองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ระดับ 2.50-2.75%
"มองว่าอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของการปรับขึ้นอย่างเดียว แต่เป็นการกลับเข้าไปสู่ระดับปกติ ส่วนตัวมองว่า 2.50-2.75% เป็นระดับที่โอเค"นายโฆสิต กล่าว
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยน แนวโน้มที่สำคัญขึ้นกับความเชื่อมั่นของคนในประเทศ และการเคลื่อนย้ายของเงินทุน มองว่าเงินทุนยังมีโอกาสไหลเข้าในประเทศในแถบที่มีอัตราการเติบโตสูง
นายโฆสิต ระบุว่า ประเทศไทยควรมีการปรับเปลี่ยนจึงจะทำให้ประเทศมีการพัฒนาต่อไประยะยาวขึ้น โดยลดการพึ่งพิงแรงงานราคาถูก คือต้องเปลี่ยนจากการใช้แรงงานเป็นการใช้ความรู้มากขึ้น เพราะแนวโน้มแรงงานในประเทศไทยปัจจุบันนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และค่าแรงสูงกว่าในภูมิภาค
ทางด้านของภาครัฐ ควรสนับสนุนการออมให้มากขึ้นและใช้จ่ายให้น้อยลง
นายโฆสิต ระบุถึงกรณีที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงทิศทางว่าได้เตรียมพร้อมนโยบายควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้ายว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทุกประเทศในเอเชียทำกันอยู่แล้ว ไม่คิดว่ามีอะไรน่ากังวล