นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะเดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีสมาชิกองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) อย่างไม่เป็นทางการ ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 29 ม.ค.54 ร่วมกับสมาชิก WTO 25 ประเทศ จากทั้งหมด 153 ประเทศที่ได้รับเชิญให้ไปเข้าร่วมการประชุม โดยไทยจะผลักดันให้การเจรจาเปิดการค้าเสรีรอบโดฮา ที่ใช้เวลาการเจรจามานานกว่า 9 ปี ประสบผลสำเร็จ และปิดรอบการเจรจาให้ได้ภายในปีนี้
สำหรับประเด็นที่ไทยต้องการผลักดันนั้น จะเน้นเรื่องการลดการอุดหนุนสินค้าเกษตร ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศสมาชิกยังใช้เงินอุดหนุนจำนวนมาก เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และทำให้ราคาสินค้าเกษตรต่ำกว่าความเป็นจริง หากไทยสามารถเจรจาให้ประเทศเหล่านี้ลดการอุดหนุนได้จะทำให้ราคาพืชผลของไทยดีขึ้น เกษตรกรไทยสามารถขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น และมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นได้
ส่วนการเปิดเสรีสินค้าอุตสาหกรรม จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำลังเจรจากัน ซึ่งหากตกลงกันได้ไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดของทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และกำลัง
ขณะเดียวกัน จะผลักดันให้สมาชิกมีกฎ และระเบียบทางการค้าที่ชัดเจน โปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจ และการค้าขับเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่น ทำให้มีการจ้างงานมากขึ้นในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ ดึงดูดการลงทุนในบริการสาขาต่างๆ ทำให้เกิดการแข่งขัน และมีการปรับปรุงคุณภาพบริการ ซึ่งจะเป็น ประโยชน์แก่ผู้บริโภค และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
นางพรทิวา กล่าวต่อว่า ไทยจะหารือทวิภาคี (เจรจา 2 ฝ่าย) กับประเทศต่างๆ ได้แก่ เกาหลีใต้ ที่จะผลักดันเกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าไก่สดแช่เย็นแช่แข็งจากไทย ด้วยเหตุผลการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก เพราะไทยได้ใช้การบริหารจัดการด้านสุขอนามัยที่มีประสิทธิภาพจนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ตั้งแต่ปี 52
สำหรับอินโดนีเซีย จะขอความร่วมมือให้ช่วยสนับสนุนการค้าข้าวระหว่าง 2 ประเทศ โดยขณะนี้รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการเจรจาขายข้าวแก่รัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งไทยต้องการให้การเจรจาครั้งนี้ซื้ประสบความสำเร็จ
ในส่วนของอินเดีย จะผลักดันให้บรรลุผลการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อินเดีย ในสินค้าที่เหลือ หลังจากที่ได้เปิดเสรีสินค้านำร่อง 8,000 รายการไปแล้ว