สกุลเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของญี่ปุ่น โดยระบุว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นขานรับความเสร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสเปน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.860 เยน จากระดับของวันพุธที่ 82.270 เยน และดีดตัวขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9457 ฟรังค์ จากระดับ 0.9432 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.22% แตะที่ 1.3727 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3697 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.17% แตะที่ 1.5927 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5900 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.63% แตะที่ 0.9921 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9984 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.05% แตะที่ 0.7723 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7719 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนทุบขายสกุลเงินเยน หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของญี่ปุ่นลงสู่ระดับ AA- จาก AA และคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นที่ A-1+
S&P ระบุว่าการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงมากต่อไปอีกหลายปี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นทางด้านการคลังของรัฐบาลที่มีสถานะอ่อนแออยู่แล้ว นอกจากนี้ S&P คาดว่า จีดีพีของญี่ปุ่นจะยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในระยะ 10 ปีนี้
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขานรับข่าวความสำเร็จในการออกพันธบัตรมูลค่า 2.2 พันล้านยูโรของรัฐบาลสเปน และกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ที่สามารถขายพันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 5 พันล้านยูโรได้อย่างราบรื่น โดยความต้องการพันธบัตรของ EFSF พุ่งขึ้นแตะ 4.3 หมื่นล้านยูโร หรือเกือบ 9 เท่าของจำนวนพันธบัตรที่นำเสนอขาย
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากการที่นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้กล่าวปกป้องสกุลเงินยูโรในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆในยุโรป ยังคงมีความหวังในสกุลเงินยูโรและยังคงสนับสนุนการแข็งค่าของเงินยูโร
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ม.ค.พุ่งขึ้น 51,000 ราย แตะระดับ 454,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนต.ค.ปี 2553 และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย เนื่องจากพายุหิมะที่โหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ของสหรัฐ โดยเฉพาะรัฐที่อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งส่งผลให้บริษัทหลายแห่งต้องปิดทำการและเลย์ออฟพนักงาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2553 ครั้งที่ 1 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีจะขยายตัวในอัตรา 3.5% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.6% ของไตรมาส 3 เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 ปี