ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงในอียิปต์ได้จุดปะทุให้เกิดความวิตกกัวงวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในตะวันออกกลาง
ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.82% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.3613 ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3726 ยูโร และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.5859 ปอนด์ จากระดับ 1.5921 ปอนด์
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.82% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.180 เยน จากระดับ 82.860 เยน และอ่อนตัวลง 0.37% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9418 ฟรังค์ จากระดับ 0.9453 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.13% แตะที่ 0.9926 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9913 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.18% แตะที่ 0.7732 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7718 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอียิปต์ โดยมีรายงานว่าชาวอียิปต์จำนวนมากลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องออกคำสั่งให้กองกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์และสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันและทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
นักลงทุนจับตาดูว่า เหตุการณ์ประท้วงบนถนนหลายสายในกรุงไคไรและเมืองใหญ่อื่นๆทั่วประเทศ รวมถึงเมืองสุเอซ อัสวาน มันซูรา และอเล็กซานเดรียนั้น จะจบลงเช่นไร หลังจากการประกาศเคอร์ฟิวโดยประธานาธิบดีมูบารัคไม่ได้ทำให้ผู้ชุมนุมหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศทบทวนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลอียิปต์ โดยได้ปรับแนวโน้มลงสู่ระดับ "เป็นลบ" ขณะที่สายการบินอียิปต์แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของอียิปต์ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินขาออกจากกรุงไคโรทุกเที่ยวเมื่อคืนนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 ของสหรัฐที่ขยายตัวในอัตรา 3.2% ต่อปี มากกว่าระดับ 2.6% ของไตรมาส 3 ส่วนจีดีพีตลอดปี 2553 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548