นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสมาคมน้ำยางข้นไทยกว่า 40 คน เข้ายื่นหนังสือต่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติว่า การยื่นหนังสือของผู้ประกอบการดังกล่าวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก รัฐบาลในการพิจารณาการชดเชยเงินสงเคราะห์การทำสวนยาง (CEES) ในอัตราใหม่ ให้มีความยุติธรรม และเท่าเทียมกันโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในธุรกิจยางพารา
สืบเนื่องมาจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ปรับเพิ่มอัตราการจัดเก็บเงินสงเคราะห์ (CESS) ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการสงเคราะห์การทำสวนยาง (ก.ส.ย.) และคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการยางพาราจำนวนมาก
โดยให้เหตุผลว่า การนำนโยบายดังกล่าวไปปฏิบัติเป็นไปอย่างล้าช้าและมีการตีความมติคณะรัฐมนตรี ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
ล่าสุดทางสมาคมน้ำยางข้นไทยได้จัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อหารือต่อกรณีความเดือนร้อนของสมาชิกฯ ที่ได้รับการพิจารณาการชดเชยให้สิทธิชำระเงินสงเคราะห์การทำสวนยาง (CESS) ในอัตราเดิม ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติให้ทราบและยื่นเสนอร้องเรียนรัฐบาลเพื่อดำเนินการชดเชยให้สิทธิชำระเงินสงเคราะห์ในอัตราเดิม เฉพาะในส่วนของสต๊อกยางพาราที่ได้รับการตรวจสอบรับรองสต๊อกจากคณะกรรมการตรวจสอบสต๊อกยางของสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ในระหว่างวันที่ 20 — 30 กันยายน 2553 แล้วเท่านั้น
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในแนวทางที่ถูกต้อง และรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายต่อไปด้วย