นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีการศึกษาผลกระทบต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม จากแผนการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ในภาคอุตสาหกรรม ที่จะทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่เดือนมี.ค.นี้
โดยที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาผลกระทบ โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมกลุ่มเซรามิกและเครื่องแก้ว จ.ลำปาง แล้ว จึงเชื่อว่าการทยอยปรับขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนของภาคอุตสาหกรรมไม่มากนัก
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยังเตรียมนโยบายในการช่วยเหลือภาคเอกชนไว้หลายแนวทาง ทั้งการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงและการเปลี่ยน Boiler หากผู้ประกอบการจะหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)แทน และมีความเป็นไปได้ว่าจะนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาช่วยเหลือด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้ LPG ลงได้ 30-40%
ส่วนกรณีที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เรียกร้องให้มีการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมภายหลังจากปรับราคา LPGนั้น กระทรวงพลังงานกำลังเร่งพิจารณาแนวทางอยู่