นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ(CPI) ในเดือนม.ค.54 อยู่ที่ 109.51 เพิ่มขึ้น 3.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.53
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ(Core CPI) ในเดือนม.ค.54 อยู่ที่ 104.39 เพิ่มขึ้น 1.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.17% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.53
โดยดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือนม.ค.54 อยู่ที่ 125.79 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.94% และเพิ่มขึ้น 1.07% จากเดือน ธ.ค.53 ส่วนดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 99.61 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.34% และเพิ่มขึ้น 0.23% จากเดือน ธ.ค.53
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ CPI ในเดือนม.ค.นี้ ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างที่หลายหน่วยงานเศรษฐกิจต่างๆ คาดการณ์ไว้ ซึ่งการปรับตัวของเศรษฐกิจไทยต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี โดยการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิดมีส่วนช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนได้
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนม.ค.54 ที่สูงขึ้น 0.54% จากเดือนธ.ค.53 เป็นผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้า, ผัก-ผลไม้, ไข่และผลิตภัณฑ์นม, เนื้อสุกร, ไก่สด, เครื่องประกอบอาหาร, ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่สินค้าบางประเภทปรับตัวลดลง เช่น ข้าวสารเหนียว, ผักและผลไม้บางชนิด, ค่ากระแสไฟฟ้า, ค่าเช่าบ้าน, ยาสูบ และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์
ส่วนเหตุที่ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือน ม.ค.54 สูงขึ้น 3.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้น มาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 5.94% ซึ่งมาจากหมวดข้าว แป้ง ผลิตภัณฑ์จากแป้ง, เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ, ไข่และผลิตภัณฑ์นม, เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ขณะที่มาจากการสูงขึ้นของหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 1.34% ตามการสูงขึ้นของหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร, เคหะสถาน, การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล, หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษา ศาสนา และหมวดเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
นายยรรยง ยังคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อไตรมาส 1/54 ว่าจะอยู่ที่ 3.2% และกระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ระดับ 3.2-3.7% ภายใต้สมมติฐาน ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 78-88 ดอลลาร์/บาร์เรล, อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ระดับ 28-33 บาท/ดอลลาร์ และรัฐบาลยังต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชน
โดยปัจจัยเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อในปีนี้ยังคงต้องจับตาความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น