โดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า ความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก และการขยายตัวร้อนแรงเกินไปของเศรษฐกิจเอเชีย อาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก
เขากล่าวที่สิงคโปร์ว่า ไอเอ็มเอฟมองเห็นการพัฒนาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง นั่นก็คือรูปแบบของเศรษฐกิจโลกที่ขาดสมดุลในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงิน ได้กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ซึ่งความไม่สมดุลดังกล่าวทำให้การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะเสี่ยง
นอกจากนั้น เขายังแสดงความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจเอเชีย ซึ่งเป็นแกนนำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า แม้เอเชียฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากวิกฤตการเงินโลกครั้งล่าสุด แต่เขาก็เห็นปัญหาบางอย่างข้างหน้า นั่นคือการที่เศรษฐกิจเอเชียร้อนแรงเกินไป
เขากล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิรูปโครงสร้าง โดยเฉพาะการปฏิรูปภาคการเงินและการปรับอัตราแลกเปลี่ยน
"การปรับอัตราแลกเปลี่ยนมีอิทธิพลต่อความไม่สมดุล มูลค่าของสกุลเงินต่างๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างเหมาะสม" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่า จีนซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ ต้องเดินหน้าไปในทิศทางดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของจีนเอง
เมื่อถูกตั้งคำถามเรื่องญี่ปุ่น เขาแสดงความกังวลว่าการดีดตัวเล็กน้อยในไตรมาสที่แล้วอาจไม่ยั่งยืน และญี่ปุ่นต้องใช้มาตรการเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก นายสเตราส์-คาห์นจึงกล่าวว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่นมีผลอย่างมากต่อเอเชีย รวมถึงประเทศอื่นทั่วโลก ผมหวังว่าญี่ปุ่นจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง เนื่องจากตอนนี้มีสองส่วนในโลกที่เศรษฐกิจซบเซามาก นั่นคือญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป โดยเฉพาะยูโรโซน"
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ เขาเชื่อว่าอัตราว่างงานที่พุ่งสูงในประเทศเป็นปัญหาหลัก และออกตัวว่าไอเอ็มเอฟพร้อมให้ความช่วยเหลืออียิปต์ในการกำหนดนโยบายต่างๆ ที่อียิปต์อาจนำไปใช้
นอกจากนั้นเขายังให้ความเห็นเกี่ยวกับอียิปต์และตูนิเซียว่า "ผมไม่คิดว่าสถานการณ์ความวุ่นวายในสองประเทศจะส่งผลในระดับโลก ผลกระทบที่มีต่อตลาดหุ้นและตลาดน้ำมันก็มีเพียงชั่วคราวเท่านั้น" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน