องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนธันวาคม 2553
โดยรายงานของ OECD ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้นจาก 1.8% ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากได้รับแรงผลักดันหลักจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น 8.3% ในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ ราคาอาหารยังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่ 2.6% ในเดือนธันวาคม ชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยจากระดับ 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน
หากไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศ OECD จะเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพฤศจิกายน
ส่วนในกลุ่มประเทศ จี7 มีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่ดัชนีราคาผู้บริโภคไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนธันวาคม ในขณะที่อังกฤษเพิ่มขึ้น 3.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับ 2.4% ในแคนาดา และ 1.9% ในอิตาลี 1.8% ในฝรั่งเศส 1.7% ในเยอรมนี และ 1.5% ในสหรัฐอเมริกา
สำหรับในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2.2% ต่อปีจาก 1.9% ในเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีราคาผู้บริโภคในกลุ่มประเทศสมาชิก OECD มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก โดยขยับขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนธันวาคมจากระดับของเดือนพฤศจิกายน สำนักข่าวซินหัวรายงาน