เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมกราคมร่วงลงพลิกความคาดหมาย สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสองปี
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 82.180 เยน จากระดับ 81.590 เยนเมื่อวันพฤหัสบดี และพุ่งขึ้น 0.95% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9545 จากระดับ 0.9455 ฟรังก์สวิส แต่อ่อนค่า 0.32% แตะ 0.9876 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 0.9908 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.34% แตะที่ 1.3584 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3630 ดอลลาร์สหรัฐ แต่แข็งค่าขึ้น 0.38% แตะที่ 111.65 เยน จากระดับ 111.23 เยน ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.22% แตะที่ 1.6102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6137 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับลง 0.19% แตะที่ 1.0135 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0154 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลง 0.39% แตะที่ 0.7696 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7726 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินดอลลาร์สหรัฐค่อยๆปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมกราคม 2554 ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานเดือนมกราคมจะดีดตัวขึ้นแตะ 9.5% หลังจากที่ในเดือนธันวาคม 2553 อัตราว่างงานสหรัฐลดลงสู่ระดับ 9.4% จาก 9.8% ในเดือนพฤศจิกายน
ดีลเลอร์กล่าวว่า อัตราว่างงานที่ร่วงลงช่วยชดเชยความผิดหวังของตลาดต่อตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมกราคมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 36,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยที่สุดในรอบสี่เดือน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 145,000 ตำแหน่ง โดยนักวิเคราะห์มองว่า การจ้างงานที่อ่อนแอนั้นเป็นเพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายในเดือนที่แล้ว
เงินยูโรร่วงลงหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ โดยในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 21 ครั้ง และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยอีซีบีเชื่อว่าตัวเลขเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ในระยะยาว