ส.อ.ท.เผยนักธุรกิจไทยชะลอลงทุนในเขมร เล็งโยกแรงงานกลับหากปะทะรุนแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 7, 2011 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย - กัมพูชา ได้สร้างความกังวลใจต่อนักธุรกิจไทยและได้ชะลอการลงทุนในกัมพูชาเพื่อรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะหากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นก็จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้บริหารและแรงงานไทยกลับมา

สำหรับผลกระทบจากเหตุปะทะกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะสั้นและมีวงจำกัด แต่อยากเรียกร้องให้รัฐบาลใช้วิธีการเจรจาทางการทูต เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็ว

อย่างไรก็ดี การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยในวันนี้ จะมีการหารือถึงผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อเตรียมแนวทางแก้ไขต่อไปด้วย

ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า เหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จะส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนในภาพรวม โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศกัมพูชา เนื่องจากประเด็นที่ขัดแย้งกันเป็นประเด็นเกี่ยวกับอธิปไตยและความรู้สึกรักชาติซึ่งมีความละเอียดอ่อนสูง ดังนั้นอาจทำให้สูญเสียภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่มีสัดส่วนการนำเข้าสูงที่สุดในกัมพูชา ขณะที่สินค้าจีนและเวียดนามจะสามารถเข้ามาแข่งขันได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นจึงอยากเสนอให้ภาครัฐประสานงานร่วมกันทั้งในฝ่ายความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จะต้องมีมาตรการช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์สินค้าไทยให้กลับมา เพื่อไม่ให้กระทบกับภาคธุรกิจที่ส่งออกและลงทุนในกัมพูชา

ปัจจุบันการค้าขายระหว่างไทยกับกัมพูชา มีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยไทยเข้าไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นภาคการเกษตร, วัสดุก่อสร้าง, สิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม, ร้านอาหาร และโรงแรม ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากกัมพูชามีมูลค่า 3,000 -5,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ