พาณิชย์ เผยแนะไทยใช้สิทธิพิเศษการค้าAFTA ขยายตลาดปท.เพื่อนบ้านมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 7, 2011 15:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างไทยกับ AFTA จะทวีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต เห็นได้จากสัดส่วนการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 19.8 ในปี 2553 เปรียบเทียบกับร้อยละ 13.7 เมื่อยังไม่มีความตกลงฯ รวมทั้งการให้ความสำคัญกับตลาด CLMV ที่ยังมีความต้องการสินค้าพื้นฐานซึ่งไทยมีศักยภาพในการผลิต เช่น วัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องอุปโภคบริโภค เม็ด/ผลิตภัณฑ์พลาสติก นับเป็นช่องทางขยายโอกาสทางการค้าที่ผู้ส่งออกไทยไม่ควรมองข้าม นอกจากนั้น ผู้ส่งออกไทยยังควรใช้โอกาสจากสิทธิพิเศษทางการค้า

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์แบบ ยกเว้นประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม หรือที่รู้จักกันในชื่อประเทศ CLMV ที่จะมีผลฯ ในปี 2558

นอกจากนั้น ผู้ส่งออกไทยยังควรใช้โอกาสจากสิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้ AFTA และความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการขยายตลาดการค้าในประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า การค้าระหว่างไทยกับ AFTA ในปี 2553 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 30.6 โดยการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5 ขณะที่การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 22.8 การค้าไทยกับประเทศสมาชิก AFTA ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ กัมพูชา เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.2 อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.8 และฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.1

สำหรับการส่งออกในปี 2553 ไทยส่งออกไป AFTA อันดับหนึ่ง รองลงมาคือ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าส่งออก 44,334 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสัดส่วนร้อยละ 22.7

ประเทศในกลุ่ม AFTA ที่มีการขยายตัวในการส่งออกสูง ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ กัมพูชา เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.7, 57.4 และ 48.2 ตามลำดับ ด้านการนำเข้า ไทยนำเข้าจาก AFTA เป็นอันดับสอง รองจากญี่ปุ่น อันดับสามและสี่ คือ จีน และสหรัฐฯ โดยมีมูลค่านำเข้า 30,327 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสัดส่วนร้อยละ 16.6 ประเทศในกลุ่ม AFTA ที่มีการขยายตัวในการนำเข้าสูง ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว และอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 176.3 62.0 และ 49.3 ตามลำดับ และนับตั้งแต่เปิดเสรีการค้าอาเซียนเป็นต้นมาไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับ AFTA มาโดยตลอด โดยปี 2553ไทยได้ดุลการค้าเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 14,006 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไป AFTA และมีการขยายตัวสูง คือ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และรถยนต์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าและมีการขยายตัวสูง คือ เชื้อเพลิงอื่น ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สินแร่โลหะอื่น ๆ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ