นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า (อคส.) เร่งเจรจานำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์รอบสอง 120,000 ตัน ให้ทันก่อนวันที่ 20 ก.พ.นี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดช่วง และสินค้าขาดแคลน หลังจากน้ำมันปาล์ม 30,000 ตันที่นำเข้ารอบแรก และนำมาผลิตน้ำมันปาล์มขวดออกขายในประเทศจะหมดลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้
พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งจัดทำยุทธศาสตร์บริหารจัดการสินค้าอุปโภคบริโภค 4 รายการสำคัญได้แก่ น้ำมันปาล์ม นมสดพร้อมดื่ม ปุ๋ยเคมี และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีความเสี่ยงจะขึ้นราคา เพื่อหาทางแก้ปัญหาสินค้าแพงอย่างเป็นระบบ เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลปัญหาราคาสินค้าแค่ปลายทางเท่านั้นจึงทำให้ดูแลได้ลำบาก
"ต่อไปจะต้องมาดูข้อมูลให้ครบทุกด้าน เพื่อวางแผนจัดการว่า ช่วงใดผลผลิตเสียหายมาก หรือมีปริมาณการใช้ไม่สอดคล้องกับการผลิต ก็วางแผนนำเข้าล่วงหน้า ไม่ต้องรอให้สินค้าขาดตลาดก่อนแล้วแก้ปัญหาภายหลัง"รมว.พาณิชย์กล่าว
นางพรทิว่า กล่าวถึงการพิจารณาปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมทุกชนิดว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำแผนการนำเข้านมผงจากต่างประเทศทั้งปี รวมถึงปริมาณน้ำนมดิบภายในประเทศ เพื่อดูปริมาณและสต๊อกของสินค้าว่ามีเพียงพอ หรือมีการกักตุนหรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาปรับขึ้นราคาของสินค้ากลุ่มนม