นายเวย์น สวอน รัฐมนตรีกระทรวงคลังของออสเตรเลียเปิดเผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกมีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากผลพวงของเหตุน้ำท่วมและพายุไซโคลนยาซี โดยภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมถ่านหินและเกษตรกรรมของรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจจะทำให้เศรษฐกิจออสเตรเลียหดตัวลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการเกษตรนั้นคาดว่า จะทำให้ราคาอาหารสูงขึ้น และยังทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีก 0.50% ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า โดยอุตสาหกรรมถ่านหินต้องสูญเงินจากการส่งออกเป็นมูลค่าถึง 5.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเหตุน้ำท่วมและพายุไซโคลนที่รัฐควีนส์แลนด์ ขณะที่มูลค่าการผลิตภาคการเกษตรอาจจะลดลงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รมว.คลังกล่าวว่า เหตุน้ำท่วมและพายุไซโคลนในควีนส์แลนด์นั้นส่งผลกระทบอย่างมากกับเศรษฐกิจ และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวในไตรมาสแรกราว 0.25% อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการเกินดุลงบประมาณของรัฐบาล ขณะที่แนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยยังมีการลงทุนในภาคทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง