กรมการค้างต่างประเทศเผยยอดการค้าชายแดนปี 53 มีมูลค่ารวม 7.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.74% โดยเป็นผลจากการเปิดตลาดการค้าเสรีอาฟตาและภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านขยายตัวได้ดี ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดการค้าเพิ่มเป็น 8.6 แสนล้าน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านยังโตต่อเนื่อง แต่จับตาปัจจัยเสี่ยงกรณีพม่าปิดด่านและเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในปี 53 ว่า มีมูลค่ารวม 778,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.74% เป็นการส่งออก 486,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.88% และนำเข้า 291,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% โดยไทยได้ดุลการค้า 194,920 ล้านบาท
"ปัจจัยที่ทำให้การค้าชายแดนปีที่แล้วเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากการที่ไทยและอาเซียนได้เปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน(อาฟตา) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 โดยมีการลดภาษีสินค้ากว่า 8,300 รายการเป็น 0% และเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง 5-7% ทำให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อเนื่องให้การค้าไทยกับเพื่อนบ้านสูงขึ้น" น.ส.ผ่องพรรณ กล่าว
สำหรับปี 54 คาดว่าการค้าชายแดนจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดจะมีมูลค่า 860,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เพราะเศรษฐกิจเพื่อนบ้านมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 53 ขณะที่พม่าหลังจากเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลมีท่าทีผ่อนคลายกฎระเบียบที่เข้มงวดทางด้านการค้าลง พร้อมส่งเสริมการลงทุนและการบริโภคของประชาชน และลาวมีการก่อสร้างเขื่อนไชยะบุลี ซึ่งนำเข้าวัสดุก่อสร้างและน้ำมันเชื้อเพลิงจากไทยเพิ่มขึ้น แต่ต้องระวังปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การปิดด่านเมียวดี ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.53 จากปัญหาสู้รบภายในของพม่า และปัญหาการเมือง และเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา