นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.)เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.วันนี้ ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เม.ย.53 ซึ่งจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกองทุนฯ ณ สิ้นปี 52 ที่เบื้องต้นมีอยู่ราว 8 หมื่นรายโดยไม่ต้องมีการกลั่นกรองจาคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน ซึ่งจะมีผลให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 4 แห่งสามารถคัดกรองลูกหนี้ได้เองโดยตรง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.), ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และธนาคารกรุงไทย(KTB)
นอกจากนี้ ยังพิจารณาข้อเสนอให้มีการยกหนี้ให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ และเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ให้ครอบคลุมตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 เม.ย.53 กรณีที่ลูกหนี้เสียชีวิตไปแล้วก่อนสิ้นปี 52 หรือพิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถทำงานได้นั้น ให้จำหน่ายหนี้เงินกู้ออกจากบัญชีเป็นหนี้สูญทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
ขณะเดียวกันหากเกษตรกรรายใดผ่านขั้นตอนการพิจารณาแล้ว จะได้รับสิทธิการปรับโครงสร้างหนี้ 50% แรกของวงเงิน ส่วน 50% ของเงินส่วนที่เหลือจะให้มีการผ่อนชำระไม่เกิน 15 ปี โดยให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ ภายหลังจากที่ ธ.ก.ส.ได้มีการแก้ไขกฎระเบียบของธนาคารเรียบร้อยแล้ว