รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เปิดเผยว่า เดือนม.ค.54 มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 120 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มี 89 ราย หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 34.83% ส่งผลให้เกิดการจ้างงานทั้งสิ้น 10,141 คน ส่วนเงินลงทุนมีจำนวน 2.84 หมื่นล้านบาท ลดลง 48% จากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มีเงินลงทุน 5.46 หมื่นล้านบาท
สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น 40 โครงการ รองลงมา คือ ยุโรป 13 โครงการ, สิงคโปร์ 7 โครงการ, ไต้หวัน 4 โครงการ, ฮ่องกง 3 โครงการ และสหรัฐอเมริกา 1 โครงการ โดยประเภทกิจการที่มีการลงทุนมากสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง รองลงมา คือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า และอันดับสาม ธุรกิจบริการและสาธารณูปโภค
แต่หากเป็นประเภทกิจการที่มีเงินลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง เงินลงทุน 9.4 พันล้านบาท รองลงมา ธุรกิจเคมี กระดาษ และพลาสติก เงินลงทุน 9.2 พันล้านบาท และอันดับสาม ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า เงินลงทุน 3.8 พันล้านบาท
ส่วนยอดการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในเดือนม.ค.54 รวมทั้งสิ้น 139 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มี 112 ราย โดยมีเงินลงทุน 2.23 หมื่นล้านบาท