เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เบอร์นันเก้อาจจะเผชิญกับการซักถามที่กดดันเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะจากสมาชิกพรรครีพัลิกัน
การแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภา ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อบทบาทของเฟดในการให้ความช่วยเหลือบริษัทในวอลล์สตรีทในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์การเงิน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เบอร์นันเก้จะถูกตั้งคำถามจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับต้นทุนและประโยชน์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด หลังจากที่นายพอล ไรอัน ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณแห่งสภาคองเกรสได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการต่างๆของเฟด รวมถึงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ที่ดำเนินการผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาล โดยนายไรอันกังวลว่า มาตรการ QE2 อาจก่อปัญหาเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองพรรคจะตั้งคำถามกับเบอร์นันเก้เกี่ยวกับแนวทางการลดยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐซึ่งปัจจุบันยืนอยู่ที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะที่ผ่านมานั้นเบอร์นันเก้ไม่เคยสนับสนุนการใช้กฎหมายลดการขาดดุลอย่างเฉพาะเจาะจง
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในการแถลงคืนนี้ เบอร์นันเก้จะยังคงเตือนสภาผู้แทนราษฎรและทำเนียบขาวว่า ความล้มเหลวในการผลักดันแผนการปรับลดงบประมาณจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติให้ใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาววงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ปี 2553 โดยทยอยซื้อในสัดส่วน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปจนถึงกลางปี 2554 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดต่ำลง