ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐประมาณการว่า อัตราว่างงานภายในประเทศจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำและเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปจนจบโครงการในช่วงกลางปีนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.70% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3729 ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3633 ยูโร และร่วงลง 0.19% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6102 ปอนด์ จากระดับ 1.6072 ปอนด์
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.56% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9574 ฟรังค์ จากระดับของวันอังคารที่ 0.9628 ฟรังค์ แต่ขยับขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.380 เยน จากระดับ 82.320 เยน
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.31% แตะที่ 1.0113 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0144 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.37% แตะที่ 0.7712 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7741 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกกดดันอย่างหนักเมื่อเบอร์นันเก้แถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยเบอร์นันเก้คาดว่าอัตราว่างงานจะยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงในปีนี้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนตีความว่า เบอร์นันเก้กำลังส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ไปจนถึงปลายปีนี้ และจะเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเต็มวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนจบโครงการในช่วงกลางปีนี้
ทั้งนี้ การตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์มีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจ และจะทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
ขณะที่ค่าเงินยูโรได้ปัจจัยบวกจากการที่นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในยูโรโซนที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าเป้าหมายของอีซีบีที่กำหนดอัตราเงินเฟ้อไว้ต่ำกว่า 2% ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่า กลุ่มผู้นำยุโรปจะสามารถหาทางป้องกันการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะ และจากรายงานที่ว่า การขายพันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 5 พันล้านยูโรของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อในตลาดการเงินอย่างท่วมท้น
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายงานสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนธ.ค., รายงานงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค.