ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) ขานรับข่าวการลาออกประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับยูโร โดยเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1.3534 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3593 ดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐยังปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.520 เยน จากระดับ 83.260 เยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้น 0.35% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9727 ฟรังค์สวิส จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9693 ฟรังค์สวิส และพุ่งขึ้น 0.48% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ โดยเงินปอนด์เคลื่อนไหวที่ระดับ 1.6016 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6093 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.31% แตะที่ 1.0008 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0039 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.41% แตะที่ 0.7594 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7625 ดอลลาร์สหรัฐ
นายโอมาร์ สุไลมาน รองประธานาธิบดีอียิปต์ประกาศเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค แห่งอียิปต์ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง พร้อมส่งมอบอำนาจให้ทางกองทัพทำหน้าที่บริหารประเทศแทน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายมีความหวังว่าจะมีการถ่ายโอนอำนาจที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และภาวะเช่นนี้ได้หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงในตลาดหุ้นนิวยอร์ก
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการรายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 75.1 จุด จากระดับ 74.2 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการบริโภคในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากมีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สถานะการเงินของผู้บริโภคฟื้นตัว ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคในวันอังคารนี้