สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงของญี่ปุ่นในไตรมาส 4 ปี 2553 หดตัวลง 1.1% ต่อปี ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส และทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะการเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกในปี 2553 ให้กับจีน
ส่วนจีดีพีที่แท้จริงตลอดปี 2553 ของญี่ปุ่นขยายตัว 3.9% จากปี 2552
หากเทียบเป็นรายไตรมาสพบว่า จีดีพีไตรมาส 4 หดตัวลง 0.3% จากไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 4 หดตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะหดตัวถึง 2.2% ต่อปี และหดตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
ข้อมูลของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของจีดีพีญี่ปุ่น หดตัวลง 0.7% ในไตรมาส 4
ตัวเลขการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.2553 ร่วงลง 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 327,006 เยน หรือ 3,945 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.6% และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
รายงานของกระทรวงระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้าร่วงลง 11.3% ในเดือนธ.ค. เนื่องจากสภาพอากาศในญี่ปุ่นอบอุ่นขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ด้านการสื่อสาร ลดลง 11.0% ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้านสันทนาการ ลดลง 3.0%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนคิดเป็นร้อยละ 60 ของตัวเลขจีดีพีของญี่ปุ่น และเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญของการอุปโภคบริโภค อีกทั้งยังเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นด้วย