สถาบันอาหารคาดอุตฯอาหารปี 54 ส่งออกมีมูลค่า 8 แสนลบ. ขยายตัวชะลอลง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 14, 2011 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวถึงสถานการณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่อัตราขยายตัวมีแนวโน้มต่ำกว่าปี 2553 โดยภาคการผลิตคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.6 จากที่ขยายตัวได้ร้อยละ 4.3 ในปี 2553

ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะมีมูลค่า 809,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.79 ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวร้อยละ 6.42 ในปี 2553 เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาทและเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักชะลอตัว โดยเฉพาะสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น

ส่วนการส่งออกไปตลาดอาเซียนและเอเชียตะวันออก เช่น จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเช่นกัน แต่ยังคงสูงกว่าอัตราขยายตัวในประเทศคู่ค้าหลักเพราะเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ชะลอตัวลงไม่มาก

"ปี 2554 คาดว่าจะเป็นอีกปีที่ผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารอาจจะต้องเหนื่อยหนัก เพราะต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยภาคการผลิตจะถูกกดดันจากภาวะต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามปัจจัยการผลิตแทบทุกอย่าง อาทิ วัตถุดิบ พลังงาน ค่าจ้าง ดอกเบี้ย ขณะที่ในแง่ของตลาดก็มีแนวโน้มชะลอตัวทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นความเสี่ยงระยะสั้นที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญและปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอดและสามารถแข่งขันได้" นายอมร กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารของไทยที่คาดว่าน่าจะเป็นดาวรุ่งในการส่งออกสำหรับปี 2554 ได้แก่ เนื้อปลาแช่แข็งแบบฟิลเลต สอดรับกระแสห่วงใยสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จะผลักดันให้การบริโภคปลาขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะปลาน้ำจืด ซึ่งปัจจุบันไทยส่งส่งออกเนื้อปลาน้ำจืดแบบฟิลเลตปีละประมาณ 4,700 ล้านบาท โดยเกือบร้อยละ 60 ส่งออกไปญี่ปุ่น รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา และนอร์เวย์

กุ้งแช่แข็ง มีแนวโน้มขยายตัวดีในตลาดสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย จีน เป็นต้น, กุ้งชุบขนมปัง/แปรรูปแช่แข็ง มีแนวโน้มขยายตัวดีในตลาดสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีบ สวีเดน เม็กซิโก, ไก่แปรรูป มีแนวโน้มว่าตลาดหลักอย่างญี่ปุ่นมีทิศทางขยายการนำเข้า ขณะที่ประเทศที่ไม่ใช่ตลาดหลัก เช่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้น ไทยจึงควรเร่งเจรจาขยายตลาด, ซอสถั่วเหลือง มีแนวโน้มตลาดขยายตัวในระดับสูงมากกว่าร้อยละ 30 ในปี 2553

สับปะรดกระป๋อง น่าจะเป็นดาวรุ่งในตลาดใหม่ที่ไทยอาจจะยังส่งออกได้ไม่มากจึงเป็นโอกาสที่ไทยจะเร่งขยายตลาดให้มากขึ้นเพื่อทดแทนตลาดหลักเดิมๆทีเริ่มทรงตัวหรือชะลอตัว โดยตลาดที่มีแนวโน้มที่ดีในปีนี้ ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน อัลจีเรีย เม็กซิโก อาร์เจนตินา จอร์แดน นิวซีแลนด์ ส่วนตลาดที่มีแนวโน้มทรงตัวถึงชะลอตัว ได้แก่ เยอรมนี อังกฤษ เนอเธอแลนด์ เบลเยี่ยม สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เกาหลีใต้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ