เฉิน เหล่ย รองผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งแห่งรัฐของจีน (SFDH) กล่าวว่า รัฐบาลจีนยังคงต้องเผชิญกับความมืดมนต่อไปในการต่อสู้กับภัยแล้ง ถึงแม้ว่าจะมีหิมะตกลงมาและมีการปรับปรุงระบบชลประทานในแหล่งเพาะปลูกข้าวสาลีที่สำคัญๆ
นายเฉินกล่าวว่า ภาวะภัยแล้งมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อธัญพืชมากขึ้น เนื่องจากอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นและพืชต้องการน้ำมากขึ้นเมื่อกลับสู่ภาวะเขียวชะอุ่ม
-- ยู เฉินเว็น ผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงเกษตรของจีนกล่าวว่า หิมะที่ตกลงมา 2 สองครั้งในภาคเหนือของจีนได้ช่วยบรรเทาความแห้งแล้งในพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีได้เพียงในวงจำกัดเท่านั้น และจีนต้องเพิ่มความพยายามในการต่อสู้กับภัยแล้งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นายยูกล่าวว่า "เพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้งอย่างมีประสิทธิภาพ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดต้องการปริมาณน้ำฝนอย่างน้อย 50 มิลลิเมตร ซึ่งหิมะที่ตกลงมาครั้งล่าสุดยังมีปริมาณที่ต่ำกว่าจำนวนดังกล่าวอย่างมาก"
-- จีนได้ผงาดเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่สุดของสหรัฐเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนต้องพึ่งพาต่อตลาดธัญพืชโลก แต่การมองหาตลาดธัญพืชโลกเป็นหนทางในการช่วยให้จีนรับประกันในความมั่นคงด้านธัญพืช
ข้อมูลสถิติของกระทรงเกษตรของสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาระบุว่า การนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐของจีนมีมูลค่าทั้งสิ้น 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2553 คิดเป็นสัดส่วน 15.1% ของการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐ ส่วนสินค้าที่มียอดนำเข้าจากสหรัฐสูงสุด ได้แก่ ถั่วเหลือง
-- เว็บไซต์ของศูนย์การค้าธัญพืชและน้ำมันแห่งชาติของจีนรายงานว่า จีนจะเปิดประมูลขายน้ำมันเรพซี้ดจำนวน 100,000 ตันจากสต็อกสำรองของรัฐบาลหลังจากที่เปิดประมูลขายไปแล้วทั้งหมด 800,000 ตัน ในการประมูล 6 ครั้งที่ผ่านมานับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
การเปิดประมูลครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกภายหลังจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่า จะช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านราคาในตลาดภายในประเทศได้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน