ภาวะน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษในรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียส่งผลให้บริษัทเหมืองถ่านหินในสหรัฐคาดว่ายอดการส่งออกอาจสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 15 ปี
กระทรวงพลังงานของสหรัฐรายงานว่า การส่งออกถ่านหินของสหรัฐมีแน้วโน้มอาจเพิ่มขึ้น 8.8% สู่ระดับ 86.5 ล้านตัน ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2539
ข้อมูลสถิติของกระทรวงพลังงานฯ ระบุว่า การส่งออกถ่านหินของสหรัฐลดลง 29% สู่ระดับ 80 ล้านตันในปี 2553 จากสถิติ 112.5 ล้านตันในปี 2524 เนื่องจากออสเตรเลียได้กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกและราคาลดลง
ทั้งนี้ ความต้องการถ่านหินของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมภายในประเทศ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า ยอดการส่งออกรวมของผู้ผลิตเหล็กและถ่านหินสำหรับให้ความร้อนของรัฐควีนส์แลนด์ลดลง 23 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 13% ของยอดการส่งออกประจำปีของประเทศซึ่งสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ผู้ผลิตทั่วสหรัฐต่างมองหาโอกาสในการส่งออกถ่านหินมากขึ้น เนื่องจากเอเชียมีอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในโลกในขณะที่การใช้งานในสหรัฐเองลดลง
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของบริษัทเหมืองแร่สหรัฐคือการขนส่งถ่านหินจากเหมืองไปยังรถไฟและท่าเรือ เนื่องจากการรถไฟต้องเผชิญกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่อนุญาตให้พนักงานลาออกและหยุดการเดินรถบางขบวนในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา