สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนม.ค.หลังจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีนในการจัดการกับเงินเฟ้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสภาพอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาวที่แผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศ
หากเทียบกับเดือนธ.ค.ปี 2553 พบว่า ดัชนีซีพีไอเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนราคาอาหารในเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 10.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ แต่นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนจะพุ่งขึ้นอีกเนื่องจากภาวะอุปทานอาหารที่ตึงตัวในช่วงเวลาเดียวกับที่ความต้องการอาหารพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขได้โดยเร็ว
นักวิเคราะห์ในภาคเอกชนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถฉุดตัวเลขเงินเฟ้อให้ลดลงได้