สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 9.00 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,374.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,361.30 - 1,377.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.2 เซนต์ ปิดที่ 30.696 ดอลลาร์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 9.25 เซนต์ ปิดที่ 4.536 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,831.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 839.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยง โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนม.ค.หลังจากราคาอาหารปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีนในการจัดการกับเงินเฟ้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสภาพอากาศแห้งแล้งในฤดูหนาวที่แผ่ปกคลุมไปทั่วประเทศ
ขณะที่ดัชนีซีพีไอเดือนม.ค.ของอังกฤษ พุ่งแตะ 4.0% จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นอีกหนึ่งเดือนที่เงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 2%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เหตุการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางยังไม่คลี่คลาย โดยมีรายงานว่าประชาชนในเยเมนและบาห์เรนได้ออกมารวมตัวประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจที่ราคาอาหารรปับตัวสูงขึ้น