ธพ.ประสานโรงกลั่นน้ำมันให้ลดส่งออก แก้ปัญหาขาดแคลนช่วงปิดซ่อมบำรุง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 16, 2011 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า ตามที่ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.54 โรงกลั่นบางจากปิดฉุกเฉิน เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อ 14 ม.ค.54 และอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงประจำปี พร้อมกับโรงกลั่น PTTAR ในเดือนก.พ.นี้ ทำให้น้ำมันสำเร็จรูปบางส่วนขาดหายไป โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล น้ำมันเจ็ทเอ 1 น้ำมันเตา และ LPG แต่ปัจจุบันโรงกลั่นผลิตน้ำมันได้มากกว่าความต้องการใช้ในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณน้ำมันคงเหลืออยู่ในระดับสูง และจำเป็นต้องส่งออกทุกเดือน

ดังนั้น ธพ.ได้ประสานผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นให้ลดการส่งออกลง ทำให้ปริมาณน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น สามารถทดแทนส่วนที่ขาดหายไปได้ส่วนหนึ่ง และได้ประสานกับโรงกลั่นบางจากซึ่งขณะนี้มีการนำเข้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอีกจำนวน 12 ล้านลิตรแล้ว เพื่อป้องกันการขาดแคลนไว้ระดับหนึ่ง

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบนั้น นายพีระพล กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์ ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงต้นเดือนก.พ.ปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นราคา WTI ปรับลดลง เนื่องจากสหรัฐได้นำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาเพิ่มขึ้น ทำให้สต็อกอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ราคา WTI จึงปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าสถานการณ์ความไม่สงบในอียิปต์จะยุติลงแล้ว แต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวแพร่ไปยังภูมิภาคเดียวกัน เช่น จอร์แดน เยเมน และโอมาน ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบดูไบอาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเกิน 100 เหรียญต่อบาร์เรลได้ จึงขอให้ประชาชนประหยัดและลดการใช้น้ำมันลง โดยเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน เช่น NGV และแก๊สโซฮอล์ เป็นต้น

ส่วนสถานการณ์ด้านการค้าพลังงานชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ประเทศไทยยังมีการส่งออกเชื้อเพลิงไปประเทศกัมพูชาตามปกติ โดยในปี 53 ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันอากาศยาน และน้ำมันเตา จำนวน 441.5 ล้านลิตร และส่งออก LPG ไปประเทศกัมพูชา จำนวน 3,224 เมตริกตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ