นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตั้งกองทุนน้ำมันปาล์มงบประมาณ 1 พันล้านบาท ขึ้นมาเหมือนกับการตั้งกองทุนเชื้อเพลิงของกระทรวงพลังงาน เพื่อมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะชี้แจงต่อที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าด้วย
ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันปาล์มส่งผลกระทบต่อประชาชน จึงจำเป็นต้องควบคุมราคาน้ำมันปาล์ม ถ้ากระทรวงพาณิชย์เลือกใช้วิธีการลอยตัวปัญหาก็จะแก้ได้ตั้งแต่ต้นแต่วิธีนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงถึงราคา 67 บาท
พร้อมแดสงความขอบคุณนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่มีแนวคิดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาตรวจสอบการกักตุนน้ำมันปาล์ม
"ยินดีและต้องกราบขอบพระคุณ เพราะลำพังกระทรวงพาณิชย์ไม่มีแขนขาที่ยาวพอที่จะเข้าไปตรวจสอบการกักตุนน้ำมันปาล์มรายใหญ่ แต่ส่วนตัวนั้นมีความเชื่อว่า ใครทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน คนนั้นก็ต้องรับโทษ" รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุเทพเสนอว่า หากกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถแก้ไขได้จะให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยดำเนินการการนำเข้าน้ำมันปาล์มในล็อตที่ 2 นั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าหากทำอย่างนั้นอาจจะมีข้อครหาว่า มีการเอื้อผลประโยชน์ต่อภาคเอกชน ซึ่งต้องคำนึงถึงประชาชนด้วย
ส่วนของกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่ามีนักการเมือง "ส."เข้ามาเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันปาล์มนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นใครต้องไปถามพรรคเพื่อไทยเอง
"กระทรวงพาณิชย์เป็นเหมือนกระทรวงปลายน้ำ ที่ต้องคอยรับน้ำเน่าเสียจากต้นทางแล้วก็มาตกที่กระทรวง ทั้งที่ต้นทางมีหลายกระทรวงด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาอยู่กระทรวงเดียว ซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้มาก ทุกวันนี้ดิฉันก็ได้แต่ร้อง แบ๊ะ แบ๊ะ"นางพรทิวา กล่าว