ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง ฉุดดอลลาร์ร่วงหนัก

ข่าวต่างประเทศ Friday February 18, 2011 08:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้กดดันให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐ และหันไปถือครองสกุลเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่าและให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า รวมถึงฟรังค์สวิส

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.7% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3602 ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3566 ยูโร และดิ่งลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6153 ปอนด์ จากระดับ 1.6089 ปอนด์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.200 เยน จากระดับ 83.650 เยน และดิ่งลง 0.92% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9504 ฟรังค์ จากระดับ 0.9592 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.79% แตะที่ 1.0110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0031 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.49% แตะที่ 0.7590 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7553 ดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์จาก Forex.com ระบุว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงบาห์เรน อิหร่าน และลิเบีย กดดันให้นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเข้าถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยมากกว่าและให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยเฉพาะเงินฟรังค์สวิส

เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางสะท้อนให้เห็นถึงการลุกลามของสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองนับตั้งแต่ประชาชนในตูนิเซียและอียิปต์ได้ประท้วงขับไล่ผู้นำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่บาห์เรนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล จนทำให้ผู้ประท้วงเสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บเกือบ 200 คน ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพบาห์เรนได้สั่งกระจายกำลังตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกับยืนยันว่าจะใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาสินค้าเพื่อผู้บริโภค ปรับตัวพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. และดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดพลังงานและอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2%

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ก.พ. เพิ่มขึ้น 25,000 ราย แตะระดับ 410,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 400,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ