ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ปรับเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ปีนี้อยู่ที่ 9.9 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% โดยเพิ่มจากเป้าหมายเดิม 9.4 หมื่นล้านบาท แต่ขยับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย ขณะที่ปริมาณสินเชื่อภาพรวมทั้งระบบอยู่ที่ 3.1 แสนล้านบาท
"เราได้ปรับเป้าสินเชื่อใหม่ปีนี้มาอยู่ที่ 9.9 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 9.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อยที่มีสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 98,952 ล้านบาท ซึ่งโตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อใหม่ทั้งระบบอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท โตสุดในรอบ 15 ปี" นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าว
นอกจากนี้ ธอส.ยังตั้งเป้าสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 669,376 ล้านบาท, NPL(ไม่รวมหนี้ส่วนขาด) 53,637 ล้านบาท หรือ 8.21% หรือลดลงจากเดิม 2,000 ล้านบาท, ตัดหนี้ส่วนขาดออกจากบัญชี 3,000 ล้านบาท, NPA ลดลงปีละ 500 ล้านบาท, สินทรัพย์รวม 696,662 ล้านบาท, เงินฝาก 558,832 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,452 ล้านบาท
นายวรวิทย์ กล่าวว่า แผนงานและกลยุทธ์ในปีนี้จะขยายฐานลูกค้าสินเชื่อรายใหม่ไปยังกลุ่มรากหญ้ามากขึ้น โดยมีสัดส่วนราว 5% ของสินเชื่อทั้งหมด ส่วนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดิมจะขยายสินเชื่อกลุ่มสวัสดิการ, ควบคุมการ Refinance-out, การให้ Pre-finance เพื่อ Post-refinance
"จะขยายฐานลูกค้ากลุ่มรากหญ้าที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 1 หมื่นบาทให้มีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 54% ของประชากรทั้งหมด และเชื่อว่าจะมีวินัยทางการเงินดี ไม่กลายเป็นหนี้สูญ" นายวรวิทย์ กล่าว
ส่วนปัญหาต้นทุนทางการเงินของ ธอส.ซึ่งอยู่ในระดับ 2.5% สูงกว่าระบบที่อยู่ในระดับ 1.5% นั้น เนื่องจาก ธอส.เสียเปรียบคู่แข่งในเรื่องข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ แต่หากเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันแล้วจะมีต้นทุนต่ำกว่า ซึ่ง ธอส.พยายามลดต้นทุนลงให้ได้ปีละ 0.1% ด้วยการขยายฐานเงินฝากรายย่อย และหาแหล่งเงินทุนอื่นเพิ่มขึ้น
"ภายใน 3 ปีจะพยายามลด NPL ให้เหลือต่ำกว่า 5%" นายวรวิทย์ กล่าว
สำหรับปัจจัยลบในการดำเนินธุรกิจปีนี้มีหลายประการ ได้แก่ ราคาน้ำมันแพง, ภาวะเงินเฟ้อ, แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น, มาตรการ LPB ของ ธปท. และปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมือง
นายวรวิทย์ กล่าวว่า ในด้านบริการ ธอส.มีแผนขยายสาขาและยกระดับสาขาย่อยเป็นสาขาหลักให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศอีกราว 20 จังหวัด โดยจะเริ่มในปีนี้ราว 10 สาขา, การติดตั้ง Self Service Machine และให้บริการผ่านกลุ่มพันธมิตร ได้แก่ เอสเอ็มอีแบงก์, บสย., ธ.ก.ส.
ขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน เพิ่มจำนวนบุคลากรให้สอดคล้องกับธุรกิจ และเตรียมพนักงานรองรับบุคลากรที่เกษียณ รวมทั้งพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ IT