บรรดาสายการบินรายใหญ่ของสหรัฐเตรียมหาทางขึ้นราคาตั๋วโดยสารสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับบน เนื่องจากความกังวลที่ว่าราคาเชื้อเพลิงอาจปรับตัวสูงขึ้นอีก หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบีย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า ผลผลิตน้ำมันในลิเบีย รวมถึงในประเทศสมาชิกโอเปคอาจได้รับผลกระทบตามมา
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และยูเอส แอร์เวย์ส ได้ปรับขึ้นราคาตั๋วโดยสารสำหรับที่นั่งชั้นธุรกิจขึ้นอีก 20 - 60 ดอลลาร์ต่อเที่ยว
สายการบินเดลต้าในการเป็นแกนนำที่สนับสนุนการขึ้นราคาตั๋วโดยสารสำหรับลูกค้าระดับบนขึ้นอีก 40 - 120 ดอลลาร์ต่อเที่ยว ทั้งนี้ หากมีสายการบินรายใดรายหนึ่งปฏิเสธการขึ้นราคา แผนการขึ้นค่าตั๋วโดยสารก็อาจต้องล้มเลิกลงได้ และขณะนี้สายการบินหลายแห่งในสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขึ้นราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินราว 50% ในปีที่ผ่านมา
ทิม สมิธ โฆษกของอเมริกัน แอร์ไลน์ส ยืนยันว่าทางสายการบินได้ขึ้นราคาค่าตั๋วโดยสารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นสายการบินแรกที่ดำเนินการ ขณะที่เดลต้า และยูเอส แอร์เวย์สออกมายืนยันถึงการปรับขึ้นราคา
นักสังเกตุการณ์กล่าวว่า สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส และคอนทิเนนตัล จะปรับขึ้นค่าโดยสารด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทยูไนเต็ด คอนทิเนนตัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวแต่อย่างใด