นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาปฏิบัติการประชาวิวัฒน์ประกันสังคมไทยเข้มแข็ง พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อเรื่อง "การสร้างระบบความคุ้มครองและหลักประกันทางสังคมให้กับแรงงานนอกระบบ" โดยเน้นย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้าสร้างระบบความคุ้มครองและหลักประกันทางสังคมให้กับแรงงานนอกระบบให้สามารถเดินหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ
โดยในระหว่างนี้ ภาครัฐจะเน้นการทำงานให้หนักมากขึ้นและจะติดตามการทำงานในทุกสัปดาห์ พร้อมยืนยันว่ายังตั้งใจเห็นระบบสวัสดิการเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ให้ได้ภายในปี 59 ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบสวัสดิการ รวมถึงวางรากฐานให้แก่สังคมเพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วย
ทั้งนี้ การสร้างระบบความคุ้มครองและหลักประกันทางสังคมให้แก่แรงงานนอกระบบ ถือเป็น 1 ในมาตรการ 9 ข้อของแผนประชาวิวัฒน์ โดยแรงงานนอกระบบจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคมปี 2533
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับตามกฎหมายดังกล่าว แบ่งได้ 2 ทางเลือก 1.ประชาชนจ่าย 70 บาท รัฐบาลอุดหนุน 30 บาท ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย, กรณีทุพพลภาพ และกรณีการเสียชีวิต 2.ประชาชนจ่าย 100 บาท รัฐบาลอุดหนุน 50 บาท จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับทางเลือกที่ 1 และจะเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีบำเหน็จชราภาพ ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตามทางเลือกที่ 2 สามารถจ่ายเงินสมทบกรณีบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจ่ายเงินสมทบรัฐบาลจะจ่ายให้เดือนละ 1 ครั้ง และจะจ่ายล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้