วอลล์สตรีท เจอร์นัลชี้มาตรการ QE2 ของเฟดเป็นต้อตอปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลก

ข่าวต่างประเทศ Thursday February 24, 2011 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เหตุการณ์ประท้วงในตะวันออกกลางอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากนัก แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลายแห่งของโลกตำหนิว่า สหรัฐเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก โดยเฉพาะในการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม G20 ครั้งล่าสุดที่กรุงปารีส

"จีนและอินเดียตำหนิธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าทำให้จีนและอินเดียประสบปัญหาในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กำลังเสนอแนะให้มีการใช้สกุลเงินอื่นๆให้เป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองของโลก แทนสกุลเงินดอลลาร์ โดยนายโดมินิก สเตราส์-คาห์น ได้เสนอให้มีการใช้สกุลเงิน SDR เป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองของโลก แทนสกุลเงินดอลลาร์" จอร์จ เมลโลน รองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล กล่าวในบทความ

เมลโลนระบุว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านโยบายของเฟดก็คือการเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ

"มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ซึ่งดำเนินการผ่านการซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ของเบอร์นันเก้ เป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อ และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเบอร์นันเก้จะสามารถรักษาตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐได้ที่ระดับ 2% ได้หรือไม่ เนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อสหรัฐจาม เศรษฐกิจของประเทศอื่นๆที่อ่อนแอและคนยากจนที่ถูกกระทบจากราคาอาหารที่แพงขึ้นนั้น ก็จะติดเชื้อโรคตามไปด้วย" บทความของเมลโลนระบุ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการประชุมเมื่อเดือนพ.ย.ปี 2553 คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดได้ตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐ มูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ โดยทยอยซื้อในสัดส่วน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.2554 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารย์ทั้งในและต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ