ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.) วันนี้ มีมติให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิชดเชยราคาน้ำมันดีเซล B3 เพิ่มอีก 50 สตางค์/ลิตร รวมเป็น 4.00 บาท/ลิตร เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลสูงเกินลิตรละ 30 บาท ส่วนการจำหน่าย B2 เกรดเดียวจะเริ่มในเดือนมี.ค.นี้
ทั้งนี้ การนำเงินจากกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปช่วยชดเชยราคาครั้งนี้จะทำให้เงินกองทุนติดลบเพิ่มเป็น 217 ล้านบาท/วัน จากเดิมที่ 154 ล้านบาท/วัน ขณะที่เงินกองทุนขณะนี้คงเหลืออยู่ 22,849 ล้านบาท
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า กบง.วันนี้ได้มีมติให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาน้ำมันดีเซล B3 อีกลิตรละ 50 สตางค์ ทำให้ขณะนี้ ดีเซล B3 ได้รับการการอุดหนุนรวมเป็นลิตรละ 4 บาท เพื่อดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนดีเซล B5 ไม่ต้องชดเชยอีกต่อไป เพราะจำหน่ายไปหมดแล้ว
การชดเชยครั้งนี้จะทำให้มีเงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 217 ล้านบาท จากเดิมวันละ 194 ล้านบาท หรือรวมเป็นเงินทุนไหลออก 6,497 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีเงินสุทธิ 22,849 ล้านบาท ดังนั้น หากพยุงราคาน้ำมันดีเซลในอัตรานี้ต่อไป เงินกองทุนฯ จะหมดภายใน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ระบุว่า จะดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นเดือนเม.ย. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากเงินกองทุนน้ำมันฯ ลดน้อยลงเหลือใกล้เคียงระดับ 10,000 ล้านบาท ทาง กพช. จะพิจารณาทบทวนอีกครั้ง ซึ่งหากดูจากราคาน้ำมันในปัจจุบันแล้ว วงเงิน 10,000 ล้านบาท จะหมดลงภายใน 1 เดือน และ กพช. คงจะต้องประชุมทบทวนอีกครั้ง
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. ยังเห็นชอบขยายเวลาการใช้สูตรคำนวณไบโอดีเซล B100 เป็นการชั่วคราว ที่อิงราคาผลปาล์มดิบในประเทศ และให้ค่าการกลั่น 2.25 บาทต่อลิตร โดยขยายไปถึงสิ้นเดือน มี.ค.จากเดิมสิ้นสุด ก.พ.นี้