ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ฟรังค์พุ่งต่อเนื่อง เหตุวิกฤตลิเบียหนุนแรงซื้อ

ข่าวต่างประเทศ Friday February 25, 2011 07:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินฟรังค์สวิสยังคงพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเงินฟรังค์มีความปลอดภัยและให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในยามที่สถานการณ์ตึงเครียดในลิเบียและตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงถูกกดดันอย่างหนักจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางในประเทศอื่นๆที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ค่าเงินฟรังค์พุ่งขึ้น 0.72% แตะที่ 0.9261 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 0.9328 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์ร่วงลง 0.50% แตะที่ 1.6128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6209 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.34% แตะที่ 1.3793 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธ 1.3746 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินเยนพุ่งขึ้น 0.80% แตะที่ 81.830 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 82.490 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.65% แตะที่ 1.0082 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0017 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 0.21% แตะที่ 0.7472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7456 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนยังคงเข้าถือครองเงินฟรังค์เพื่อปกป้องความเสี่ยงจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางและลิเบีย เนื่องจากเงินฟรังค์มีความปลอดภัยและให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า กองกำลังทหารของพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้เข้าโจมตีเมืองซูอาราเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บอีก 40 คนจากเหตุการณ์นี้

นายฟิลิป โครว์ลีย์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อลิเบีย เพื่อตอบโต้รัฐบาลภายใต้การนำของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วง โดยสหรัฐอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับลิเบียทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี และจะประสานงานในเรื่องนี้กับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รวมทั้งประเทศพันธบัตรในยุโรปและประเทศอาหรับ ในเร็วๆนี้

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษและยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.3% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปที่กำหนดไว้ต่ำกว่า 2% ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของอังกฤษ ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลเยอรมนีในปี 2553 อยู่ที่ 3.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งน้อยกว่าที่ได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.5% แต่เหนือว่าเพดาน 3% ที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้สำหรับ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.พ. ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 391,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 413,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลงสู่ระดับ 402,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2551

สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2553 ครั้งที่ 2 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ