สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้ปรับทบทวนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2553 เป็นหดตัว 0.6% ซึ่งมากกว่าตัวเลขประมาณการณ์ก่อนหน้านี้ว่าหดตัว 0.5%
แถลงการณ์ของสำนักงานสถิติระบุว่า ภาคการผลิตขยายตัวค่อนข้างดี แต่อุตสาหกรรมก่อสร้างอ่อนแอ ส่วนภาคบริการซึ่งคิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ของเศรษฐกิจอังกฤษนั้นหดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 100 ปีเมื่อเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ คาดว่าการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ทบทวนใหม่ในวันนี้จะมีผลต่อระยะเวลาในการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ โดยเอกสารผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเผยว่า คณะกรรมการ 3 คนโหวตให้มีการขึ้นดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 6 คนเห็นชอบให้มีการคงดอกเบี้ยที่ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป
โดยเอกสารดังกล่าวระบุเป็นนัยว่า กรรมการที่คัดค้านการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อต้นเดือนนี้อาจพิจารณาเปลี่ยนท่าทีหากตัวเลขจีดีพีของอังกฤษกระเตื้องขึ้น ท่ามกลางกระแสวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่แพงขึ้นและการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ทั้งนี้ การหดตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้วถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2552 และเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2552 ที่จีดีพีหดตัว 0.8%