นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง.มีมติให้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์ เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทตามนโยบายรัฐบาล ทำให้ล่าสุดน้ำมันดีเซลได้รับการชดเชยรวมทั้งสิ้น 4.50 บาท/ลิตร
การชดเชยในรอบนี้ ส่งผลให้เงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 247 ล้านบาท จากเดิมวันละ 220 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณเดือนละ 7,405 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ ได้จ่ายเงินชดเชยเพื่อการนี้ไปแล้ว 8,070 ล้านบาท และสถานะของเงินกองทุนน้ำมันฯ ในปัจจุบันอยู่ที่ 21,684 ล้านบาท
แต่เนื่องจากกองทุนน้ำมันฯ ยังมีภาระต้องชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติในรถยนต์(NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ประมาณ 5,600 ล้านบาท ทำให้กองทุนฯ มีเงินเหลือสุทธิประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท ดังนั้นหากพยุงราคาน้ำมันดีเซลในอัตรานี้ต่อไป คาดว่าเงินกองทุนน้ำมันฯ จะหมดภายใน 2 เดือน
อนึ่ง มติ กพช.ระบุว่า จะดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาทจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.54 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะหากเงินกองทุนน้ำมันฯ ลดน้อยลงเหลือใกล้เคียงระดับ 10,000 ล้านบาท กพช.จะพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าวอีกครั้ง โดยคาดว่า จะมีการประชุม กพช.ในต้นเดือนมี.ค.
นพ.วรรณรัตน์ ยังชี้แจงถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ขอจัดสรรน้ำมันปาล์มดิบจากกระทรวงพลังงาน 5 พันตันเพื่อไปใช้ผลิตน้ำมันพืชบริโภคว่า ไม่ได้เป็นการขอยืมสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ(CPO)จากผู้ผลิตไบโอดีเซลเพื่อนำไปใช้ในการผลิตเป็นน้ำมันพืชบริโภค แต่ใช้วิธีการขอความร่วมมือผู้ผลิตไบโอดีเซลทั้ง 7 ราย ให้หยุดซื้อ CPO ที่จะนำไปผลิตเป็น บี100 ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.-7 มี.ค.54 ซึ่งการหยุดซื้อ CPO รวม 13 วัน จะทำให้มี CPO เหลือประมาณ 5,000 ตัน โดยปัจจุบันมีสต็อก CPO อยู่ประมาณ 7,700 ตัน