ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) บ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัวได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากอุปสงค์ในส่วนของผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และในประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวขึ้น
NABE ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจปี 2554 ของสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 2.6% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2555 จะขยายตัว 3.4%
"ปัจจัยต่างๆที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อไปนั้น รวมถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคและภาคเอกชนที่สูงขึ้น การขยายตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย และนโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย แต่ปัจจัยที่จะยับยั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจนั้น รวมถึงภาวะตึงตัวด้านการเงิน ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจในอนาคตของรัฐบาล ภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัย และอัตราว่างงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายริชาร์ด วอบบ์ไคนด์ ประธาน NABE กล่าว
ผลสำรวจของ NABE ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะขยายตัว 3.2% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 2.4% ขณะที่ตัวเลขการลงทุนด้านอุปกรณ์สำนักงานและซอฟต์แวร์ของภาคเอกชนจะขยายตัว 12.1% และคาดว่ายอดการส่งออกในปีนี้จะสูงกว่ายอดการนำเข้าอยู่ราว 8.6%
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของ NABE ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงเป็นภาคส่วนที่ล้าหลังเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่นๆของประเทศ พร้อมกับคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ผลสำรวจของ NABE คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานจะขยายตัวเพียง 1.2% ในปี 2554
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า NABE ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จำนวน 47 คนในระหว่างวันที่ 25 ม.ค. - 9 ก.พ.