รัฐบาลอินโดนีเซียเผยนโยบายการคลังใหม่ หวังกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 1, 2011 14:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อากัส มาร์โตวาร์โดโจ รัฐมนตรีกระทรวงคลังของอินโดนีเซียประกาศนโยบายการคลังใหม่ 6 ข้อ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้ยากจน ซึ่งนโยบายดังกล่าวใช้ชื่อว่า "February policy package" ซึ่งครอบคลุมถึงกฎระเบียบด้านภาษีใหม่ด้วยเช่นกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รมว.คลังอินโดนีเซียกล่าวว่า ด้วยนโยบายใหม่นี้ ภารกิจของกระทรวงคลังคือ การสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ จุดเด่นของกฎเกณฑ์ใหม่ประกอบด้วย การยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับยอดขายบ้านที่มีมูลค่าต่ำกว่า 70 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 7,910 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรการการยกเลิกการจัดเก็บภาษีการขายน้ำมันปรุงอาหารและน้ำมันปรุงอาหารสำหรับผู้ยากจนก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่า 55 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 6,245 ดอลลาร์ และการให้เงินอุดหนุนแก่กองทุนต่างๆตามที่สำนักงานพลาธิการอินโดนีเซีย (Bulog) ระบุล่วงหน้า 50% เพื่อจัดหาข้าวเข้าโครงการช่วยเหลือผู้ยากจน

แอนนี่ รัตนาวาตี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคลังอินโดนีเซีย กล่าวว่า การขึ้นเพดานการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของยอดขายบ้านนั้นคงจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาล เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนธุรกิจที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน และยังเป็นนโยบายจูงใจให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากความต้องการที่อยู่ในระดับสูง และเราหวังว่าจะกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในอุตสาหกรรม ซึ่งอุปทานและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยชดเชยรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ลดลงกว่าเดิมได้

โรเบิร์ต พัคพาฮาน ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายรายได้รัฐของกระทรวง กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยนั้นสูงขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและราคาที่ดินและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้น

เงินเฟ้อของอินโดนีเซียในเดือนม.ค. 2554 อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ 7.02% เนื่องมาจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นทำให้กระทรวงคลังต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มน้ำมันปรุงอาหารสำหรับผู้ยากจน และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ