นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า วันนี้ราคาทองคำทั้งในตลาดตลาดโลกและในประเทศทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 1,434 ดอลลาร์/ออนซ์ จากสถิติก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.53 อยู่ที่ระดับ 1,431 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้คงเป็นเรื่องทางจิตวิทยาในระยะสั้นๆ
ทั้งนี้ เชื่อความกังวลของนักลงทุนต่อปัญหาความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่าเหตุการณ์ความไม่สงบเนื่องจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลในประเทศลิเบียและอิหร่าน
"ผมดูแล้วลึกๆ ไม่น่าจะมาจากปัญหาลิเบียหรืออิหร่าน น่าจะมาจากสาเหตุอื่น เพราะเหตุการณ์ในลิเบียและอิหร่านน่าจะเกี่ยวข้องกับน้ำมันโดยตรง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทองคำ เที่ยวนี้ขึ้นมาแรงและเร็วด้วย...ที่ขึ้นมาวันนี้ ผมอ่านว่ามาจากเรื่องญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซ้อมรบที่เป็นการยั่วยุเกาหลีเหนือมากกว่า ผมว่าเป็นปัจจัยจากประเด็นนี้มากกว่า" นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
เมื่อเวลา 09.37 น.สมาคมค้าทองคำ ได้ประกาศราคาทองประจำวัน ทองคำแท่งรับซื้อเข้าบาทละ 20,500.00 ขายออกบาทละ 20,600.00 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อเข้าบาทละ 20,208.28 ขายออกบาทละ 21,000.00
"เมื่อตอนเกิดเหตุการณ์ 9-11 ตึกเวิลด์เทรดที่อเมริกา ราคาขึ้นไปแค่ 30 เหรียญ แล้วสองสามวันก็จบ เพราะข่าวพวกนี้ไม่แรงและไม่ยาว แต่ลึกๆ ต้องดูต่อไป หากมีความตึงเครียดกว่านี้ก็อาจกระเตื้องขึ้นไปได้อีกที คนที่เก็งกำไรตั้งใจจะให้ขึ้นอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีข่าวที่มาสนับสนุน บังเอิญมีเรื่องนี้ขึ้นมา" นายจิตติ กล่าว
นายกสมาคมค้าทองคำ แนะนำว่า นักลงทุนควรขายออกบางส่วนเพื่อทำกำไรไว้ก่อนจะดีกว่า อย่าไปเสียดายหากขายออกไปแล้วราคายังปรับตัวสูงขึ้นไปอีก เพราะการปรับตัวขึ้นไปอย่างนี้จะปรับลดลงแรง
"อย่าไปเสียได้ มีข่าวแบบนี้เวลาลงแรง กำไรน้อยดีกว่า" นายจิตติ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกปีนี้คาดว่าจะไม่ปรับตัวสูงเกิน 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาในประเทศยังต้องพิจารณาเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนด้วย