(เพิ่มเติม) ธสน. ตั้งเป้าปี 54 กำไร 600 ลบ. จากการสำรองหนี้สงสัยจะสูญลดลง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 2, 2011 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(Exim Bank)หรือ ธสน. เปิดเผยว่า ในปี 54 ธนาคารฯ ได้ตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิไว้ที่ 600 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 145 ล้านบาทในปี 53 จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญน้อยลง ขณะเดียวกันจะพยายามปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น บริหารจัดการสินทรัพย์และยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคาดว่า NPL ในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้ประกอบการในปีนี้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

"เราจะเร่งสินเชื่อให้มากขึ้น มีการบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มการประกันภัยต่อในสัดส่วนที่มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้เรามีกำไรเพิ่มมากขึ้น" นายคนิสร์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ธสน.ได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อในปี 54 ไว้ 16% จาก 56,481 ล้านบาทในปี 53 มาเป็น 65,290 ล้านบาทในปี 54 และตั้งเป้าปริมาณธุรกิจบริการประกันการส่งออกไว้ที่ 100,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ธสน.จะยังเน้นการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะโครงการสำคัญในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศพม่า รวมถึงโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย

ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนั้น ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อให้แก่การทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในตะวันออกกลาง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้ส่งออกไม่ใช่ผู้ประกอบธุรกิจในประเทศดังกล่าว

อย่างไรก็ดีมองว่า แนวโน้มการขยายสินเชื่อใหม่แก่ผู้ที่จะประกอบธุรกิจกับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางถือว่ามีความน่าสนใจ เพราะหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงในกลุ่มประเทศดังกล่าวสงบแล้ว เชื่อว่าความจำเป็นที่จะต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภค วัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ตลอดจนสินค้าอาหาร สินค้าเกษตร และเครื่องนุ่งห่มน่าจะมีเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ธสน.ประเมินว่าการส่งออกในปี 54 อาจจะชะลอตัวลงจากปีก่อนจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ 1.ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจนบั่นทอนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 2.ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีผลจากกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุน และ 3.ปัญหาภัยธรรมชาติ ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่าในปีนี้จะมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าภาคการเกษตรและอาหารโลกที่ไทยถือเป็นประเทศผู้ส่งออกหลัก

นายคนิสร์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 53(ก่อนตรวจสอบ)ว่า ธสน.มีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 201 ล้านบาท เนื่องจากในปี 53 มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสูงถึง 1,491 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 452 ล้านบาท จากปี 52 ซึ่งเป็นการตั้งสำรองจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ และตั้งสำรองในเชิงคุณภาพของลูกหนีเพิ่มเติมในปี 53

ส่วนยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อ สิ้นปี 53 อยู่ที่ 56,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 52 ส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวของสินเชื่อระยะยาวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ NPL สิ้นปี 53 อยู่ที่ 3,539 ล้านบาท ลดลง 830 ล้านบาทจากปี 52 ส่งผลให้อัตราส่วน NPL ต่อเงินให้สินเชื่อรวมดอกเบี้ยค้างรับ ณ สิ้นปี 53 เท่ากับ 6.22% ลดลง 1.93% จากสิ้นปี 52

กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวว่า ในปี 53 ธนาคารฯ ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ 29,864 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีวงเงินอนุมัติให้แก่นักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศทั้งสิ้น 13,376 ล้านบาท สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศในภาวะเงินบาทแข็งค่าเมื่อปี 53

นอกจากนี้ ธสน.ยังอนุมัติวงเงินรับประกันการส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกจำนวน 4,934 ล้านบาท เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ทำให้ผู้ส่งออกมีความมั่นใจที่จะขยายธุรกิจส่งออกไปยังตลาดโลกมากขึ้น โดยในปี 53 ธสน.มียอดแจ้งรับประกันการส่งออก 108,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% จากปี 52 และยอดภาระผูกพันการรับประกัน ณ สิ้นปี 53 อยู่ที่ 33,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากปี 52


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ